เครนเป็นอุปกรณ์ยกที่จำเป็นในโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และสถานที่อื่นๆ การปฏิบัติงานและการบำรุงรักษารถเครนระหว่างการใช้งานควรทำอย่างไร การปฏิบัติงานและการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสมมีความสำคัญต่อการยืดอายุการใช้งานหรือไม่
1. ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการดำเนินการอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการบรรทุกเกินพิกัด
การบรรทุกเกินพิกัดของเครนสามารถทำให้ระบบไฮดรอลิก โครงสร้างเหล็ก และชิ้นส่วนส่งกำลังเสียหายได้โดยตรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง ผู้ปฏิบัติงานต้องปฏิบัติตามความสามารถยกน้ำหนักตามค่าที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ห้ามบรรทุกเกินพิกัด หรือยกชันหรือเอียงอย่างเด็ดขาด หลีกเลี่ยงการสตาร์ท หยุด หรือเปลี่ยนมุมกระบอกอย่างฉับพลัน เพื่อลดแรงกระแทกทางกลไก นอกจากนี้ ก่อนการยก ควรตรวจสอบสภาพของชิ้นส่วนต่างๆ เช่น อุปกรณ์จับยก โซ่ และสายสลิง เพื่อให้มั่นใจว่าเชื่อมต่ออย่างมั่นคง และป้องกันไม่ให้อุปกรณ์รับน้ำหนักมากเกินไปเนื่องจากการล้มเหลวของอุปกรณ์จับยก
2. จัดทำโปรแกรมการบำรุงรักษารายวันอย่างสม่ำเสมอ
การบำรุงรักษาทุกวันเป็นพื้นฐานสำคัญในการยืดอายุการใช้งานของเครน ควรตรวจสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์หลักทุกวัน: ตรวจสอบสลิงลวดเหล็กว่ามีเส้นลวดขาดหรือสึกหรอหรือไม่ และทำการหล่อลื่นทันที; ตรวจสอบระบบไฮดรอลิกว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ และตรวจสอบให้มั่นใจว่าระดับน้ำมันและคุณภาพตรงตามมาตรฐาน; ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบเบรกทำงานได้อย่างไวต่อการตอบสนอง และผ้าเบรกสึกหรออยู่ในระดับที่เหมาะสม ควรหล่อลื่นและบำรุงรักษาชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว เช่น กลไกการหมุน (slewing mechanism) และกลไกการเปลี่ยนมุมเอียง (luffing mechanism) เป็นประจำ ควรดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดทุกเดือน โดยเน้นการตรวจสอบรอยเชื่อมโครงสร้างเหล็กว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ และตรวจสอบสลักเกลียวที่อาจหลวม ควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานที่มีข้อบกพร่อง
3. ตรวจสอบให้มั่นใจว่าสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้
สภาพแวดล้อมที่รุนแรงสามารถเร่งการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนเครนได้ เมื่อใช้งานกลางแจ้ง ควรใส่ใจในการป้องกันไม่ให้ถูกฝน ความชื้น และแสงแดด โดยหลังฝนตก ควรทำความสะอาดน้ำที่ขังอยู่ตามอุปกรณ์และทำให้ระบบไฟฟ้าแห้งเพื่อป้องกันการลัดวงจร ในอากาศร้อนควรตรวจสอบระบบระบายความร้อนของน้ำมันไฮดรอลิกเพื่อป้องกันอุณหภูมิน้ำมันสูงเกินไป เมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ควรจัดเก็บอุปกรณ์ในพื้นที่ที่แห้งและมีการระบายอากาศ ทาครีมน้ำมันกันสนิมบนชิ้นส่วนโลหะที่มองเห็นได้ และคลุมตู้ควบคุมไฟฟ้าเพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้นเข้ามา สำหรับสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการกัดกร่อน (เช่น ท่าเรือและสถานที่ทางเคมี) ควรใช้ชิ้นส่วนที่ทนต่อการกัดกร่อนและดำเนินการป้องกันการกัดกร่อนอย่างสม่ำเสมอ
4. เน้นการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานและการแก้ปัญหาข้อขัดข้อง
ระดับความเชี่ยวชาญของผู้ปฏิบัติงานมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์ จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ปฏิบัติงานคุ้นเคยกับโครงสร้างของอุปกรณ์ ขั้นตอนการดำเนินงาน และวิธีการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม เมื่อพบความผิดปกติใด ๆ ในอุปกรณ์ (เช่น เสียงผิดปกติ การสั่นสะเทือน หรือประสิทธิภาพลดลง) ต้องหยุดการทำงานทันทีและทำการตรวจสอบซ่อมแซมโดยผู้เชี่ยวชาญ การถอดชิ้นส่วนเองหรือการใช้งานต่อภายใต้แรงกดดันถือเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อผิดพลาดเล็กน้อยลุกลามกลายเป็นความเสียหายร้ายแรง และเพื่อให้มั่นใจในการทำงานที่มั่นคงและยั่งยืนของอุปกรณ์ในระยะยาว
2025-10-17
2025-10-11
2025-09-26
2025-09-19
2025-09-12
2025-09-05